วิ่งเพซ

วิ่งเพซ

วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับการวิ่งในอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นรูปแบบที่ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่คุ้นชินสำหรับมือสมัครเล่นสักเท่าไหร่นัก เพราะว่ามันเป็นการวิ่งที่ต้องบอกเลยว่ามีการจับเวลาในแบบต่างๆ ซึ่งมันถูกเรียกว่าวิ่งเพซถ้าจะให้เรียกง่ายๆก็คือคุณจะต้องรู้ก่อนว่า การวิ่งประเภทนี้มันเป็นการวิ่งที่ต้องใช้ทักษะ และความสามารถของร่างกายพอสมควร เพราะถ้าจะให้เปรียบก็คือถ้าคุณขับรถการที่จะมีความเร็ว หรือแม้แต่ช่วงกิโลที่บอกว่าคุณนั้นวิ่งอยู่ในจำนวนกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำหรับการวิ่งจะใช้คำว่าเพซแทน และต้องบอกเลยว่ามันต่างกันแค่จากรถเปลี่ยนเป็นมนุษย์เราวิ่งและจับดูว่าใน 1 กิโลเมตรเราสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วเท่าไหร่แบบเสมอ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจำเป็นจะต้องใช้ความชำนาญ และความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะการวิ่งแบบนี้เป็นการวิ่งที่ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ และความสามารถของร่างกายในการวิ่ง เพราะว่าตลอดระยะเวลาการ วิ่งเพซ นั้นจะใช้ความเร็วที่คงที่ 

สูตรในการคำนวณ วิ่งเพซ

  • VO2MAX มันคือการวัดออกซิเจนในร่างกายของเราอย่างหนึ่งแต่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นการวัดโดยที่จะทำให้เรารู้ว่าร่างกายของเรานั้นสามารถใช้ออกซิเจนได้ดีที่สุดขนาดไหนซึ่งมันจะมีหน่วยเป็น มิลลิลิตร : น้ำหนักตัว : นาที และที่สำคัญถ้ามันออกมามีค่าที่สูงแสดงว่าคุณนั้นวิ่งอึดและเป็นคนที่ไม่เหนื่อยง่าย
  • VVO2MAX มันคือความเร็วที่ต่ำที่สุดในการวิ่งและมันเป็นการวัดการใช้ออกซิเจนสูงที่สุดหรืออาจจะวัดตอนที่คุณเหนื่อยที่สุดซึ่งมันจะมีหน่วยเป็น ระยะทาง : เวลา หรือจะเป็นแบบกี่กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งมันจะเป็นตัวที่ทำให้เราสามารถรับรู้ขีดจำกัดของร่างกายของเราว่าเราสามารถวิ่งเร็วได้แค่ไหน 

วิ่งเพซ
  1. วิ่งเต็มสปีด ใส่ให้เต็มสายให้สุดวัดจาก 3 กิโลเมตรซึ่งจำเป็นจะต้องวิ่งในลู่วิ่งที่เป็นมาตรฐานนั่นก็คือจำเป็นจะต้องวิ่งในลู่ที่หนึ่งด้วยเพราะต้องการระยะทางที่แม่นยำเพื่อจะง่ายในการคำนวณ
  2. จับเวลา จำเป็นที่จะต้องใช้การจับเวลาเพื่อที่จะได้สามารถทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่าใน 3 กิโลเมตรเนี่ยคุณใช้เวลาไปเท่าไหร่และต้องวัดทุกๆ 400 เมตรด้วย
  3. เอาเวลาที่ได้แปลงเป็นวินาที จะมาใช้สูตรในการคำนวณก็ต้องเอามาหารด้วย 3 กิโลเมตรเพื่อเฉลี่ยว่าในแต่ละกิโลเราใช้เวลาไปกี่วินาทีแล้วค่อยนำมาแปลงเป็นนาทีก็จะกลายเป็นค่าเพซเฉลี่ย
  4. วัดทุก 400 เมตร ที่ทำก็เพื่อที่จะเอาไว้สำหรับในการคำนวณ VVO2Max ซึ่งจะทำให้เราสามารถหาค่าเฉลี่ยเหมือนข้อ 3 ได้ว่ามันมีค่าที่แกว่งมากน้อยขนาดไหน
  5. ไม่ควรทดสอบคนเดียว การทดสอบแบบนี้สิ่งที่สำคัญเลยควรจะมีผู้ช่วยและไม่ควรที่จะทดสอบด้วยตัวของคุณเพียงคนเดียวเพราะว่าอาจจะเกิดปัญหาหรือต้องมีคนคอยสังเกตการถ้ามีการใช้แรงจนหมดอาจจะหอบเป็นลมหมดสติหรืออะไรก็ได้ดังนั้นควรที่จะมีคนช่วยดูแล
  6. ป่วยไม่สบาย ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรป่วยไม่สบายหรือว่าเป็นโรคหัวใจหรือเป็นโรคที่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการวิ่งก็ไม่ควรที่จะทดสอบเพราะว่าอาจจะเกิดปัญหาได้

การใช้ VVO2MAX เป็นตัวช่วยในการวางแผนในการซ้อมถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะมันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่าเราสามารถซ้อมวิ่งแบบไหนและควรจะใช้เพจในการวิ่งเท่าไหร่เพื่อที่จะทำให้เราสามารถสะสมและสามารถวางแผนในการวิ่งหรือจะเอาไปลงแข่งซ้อมเพื่อลงแข่งก็สามารถทำได้เพราะมันจะทำให้เราสามารถคำนวณเวลาออกมาได้ว่าเราจะสามารถวิ่งได้ด้วยเวลาเท่าไหร่หรือกี่นาทีและคุณจะสามารถใช้ความเร็วได้อย่างเหมาะสมได้อยากดีทุกช่วงเวลาในการวิ่งคุณจะเลือกใช้ได้จนถึงเข้าเส้นชัยโดยที่คุณไม่ต้องมีอาการเจ็บปวดหรือเหนื่อยมากจนเกินไปและในช่วงจะเข้าเส้นชัยจะได้เหลือแรงไว้ทำสปีดเพื่อวิ่งด้วยความเร็วแล้วต้องบอกเลยว่าค่าของ VVO2MAX จะขยับฆ่าได้มันขึ้นอยู่กับความสามารถและความฟิตของร่างกายของคุณดังนั้นต้องหมั่นฝึกซ้อม

การที่เราได้หาความเร็วที่ต่ำสุดมันก็มีประโยชน์เช่นเดียวกันจากการหาค่า VO2Max มันคือการหาค่าความเร็วที่ต่ำสุดที่เราใช้ในการวิ่งเพื่อที่จะใช้ในการซ้อมหรือการวิ่งแบบประหยัดพลังงานเพื่อที่จะได้ทำให้เราสามารถไปทำความเร็วได้ในช่วงเวลาที่จำเป็นเราจะรู้ค่าเพซว่าเราสามารถวิ่งได้เท่าไหร่และสามารถคำนวณได้เช่นเดียวกันกับความเร็วสูงสุดดังนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการวางแผนในการวิ่งเพราะแต่ละที่แต่ละกิโลมันก็มีความต่างกันและมันก็ขึ้นอยู่กับความฟิตหรือความแข็งแรงของร่างกายด้วยดังนั้นต้องบอกเลยว่าการฝึกซ้อมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นสิ่งที่จะทำให้คุณนั้นสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่คุณตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้อย่างแน่นอน